ซีเย็คสุดยอด,ไก่ลูกไล่สิงห์บลูส์! 5 ประเด็นเกมเชลซีข่มสเปอร์สจมดิน

เป็นอันว่า เชลซี มีชัยเหนือ สเปอร์ส อีกตามเคยเมื่อเปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ย้ำแค้นทีมร่วมเมืองได้อีกหนในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ม.ค.

จากชัยชนะดังกล่าว ส่งผลให้ สิงห์บลูส์ ครองความเป็นเจ้าแห่งลอนดอนอย่างเต็มตัวเนื่องจากพวกเขาเป็นทีมแรกของเว็บคาสิโนออนไลน์ถูกกฎหมายเมืองหลวงที่โกยแต้มเข้ากระเป๋าได้เกินหลัก 500 แต้มไปแล้ว (501 แต้ม) จากการทำศึก พรีเมียร์ลีก ลอนดอนดาร์บี้แม็ตช์ เป็นเกมที่ 272

อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากสถิติที่ว่า ยังมีอีก 5 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

 

1.ฟุตบอลมีชนะ และมีชนะ

ก่อนเกมบู๊กับ สเปอร์ส ในคราวล่าสุด โธมัส ทูเคิ่ล ให้สัมภาษณ์ว่า เชลซี ไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่มีภาษีเหนือกว่า สเปอร์ส เลยแม้ทีมของเขาจะเอาชนะ ไก่เดือยทอง ได้ก่อนหน้านี้สองนัด

นั่นเป็นเพราะว่าฟุตบอลมีแพ้มีชนะ และไม่นัดใดก็นัดหนึ่ง สเปอร์ส อาจเป็นฝ่ายได้เฮฮาบ้างก็ได้

อย่างไรก็ดี จากสกอร์รวมสองนัด 3-0 ของเกม คาราบาวคัพ รอบตัดเชือก มันแสดงให้เห็นว่า สิงห์บลูส์ เหนือกว่า ไก่เดือยทอง หลายขุม และในที่สุดพวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นอีกหนด้วยการพิชิตทีมร่วมเมือง 2-0 ชนิดที่เก็บคลีนชีตได้เรียบวุธ

เท่ากับว่าบางทีหากคู่นี้ได้ดวลกันอีกในระยะเวลาอันสั้น ผลลัพธ์อาจเป็นเหมือนการฉายหนังม้วนเดิมอีกก็ได้ แม้ฟุตบอลจะมีแพ้มีชนะ แต่สำหรับ เชลซี มีแต่ชนะ และชนะ สเปอร์ส ยันเต

 

2.สถิติที่น่าเจ็บปวดของ ไก่เดือยทอง

หลังจบเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ มีการแฉสถิติที่เลวร้ายของฝั่ง สเปอร์ส ซึ่งตกเป็นเบี้ยล่าง เชลซี มานานแสนนานดังต่อไปนี้

-สเปอร์ส เจอกับ เชลซี หกนัดหลังโดยไม่อาจยิงประตูได้เลยแม้แต่ลูกเดียวซึ่งเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดของสโมสรในการดวลกับอริรายเดียวกัน และมันรวมเวลา 547 นาทีเข้าไปแล้วที่พวกเขากระสุนด้านโดยคนสุดท้ายที่คลำเป้า สิงห์บลูส์ ได้คือ เอริค ลาเมล่า ในเดือนก.ย.2020

-ถึงตอนนี้ สเปอร์ส บุกมาชนะ เชลซี ได้แค่หนเดียวเท่านั้นจาก 37 นัดหลังสุด

-เชลซี ชนะ สเปอร์ส ได้สี่นัดติดต่อกันในทุกรายการของซีซั่นนี้ (สกอร์รวม 8-0) อันทำให้ สิงห์บลูส์ เป็นทีมแรกของ พรีเมียร์ลีก ที่เผด็จศึกคู่แข่งรายเดียวกันได้สี่นัดรวดในซีซั่นเดียวกันต่อจากที่ แมนฯ ซิตี้ ข่ม เวสต์แฮม ในซีซั่น 2013/14 แถม สิงห์บลูส์ ยังเป็นทีมแรกที่พิชิตคู่แข่งหน้าเดิมได้สามนัดรวดในเดือนเดียวกันถัดจากที่ แอสตัน วิลล่า มีชัยเหนือ แบล็คเบิร์น ในเดือนม.ค.2010 ด้วย

 

3.แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์

จะใครซะอีกถ้าไม่ใช่ ฮาคิม ซีเย็ค สตาร์ทีมชาติโมร็อคโกซึ่งกดประตูเบิกร่องในเกมพา สิงห์บลูส์ ออกนำได้อย่างสุดฮือฮา

และมันเป็นประตูที่สองติดต่อกันในสองเกมที่เขาซัดให้กับเศรษฐีลอนดอนได้ต่อจากเกมที่บุกไปโดน ไบรท์ตัน ตีเสมอ 1-1

ต่อผลงานโดยรวมในเกมสยบ สเปอร์ส 2-0 ของ ซีเย็ค มีการตีแผ่ตัวเลขในแง่มุมต่างๆออกมาดังนี้

ประตู : 1

พยายามสับไก : 5

สัมผัสบอล : 96

ผ่านบอลสำคัญ : 2

เลี้ยงบอลหนีคู่แข่ง : 2

โยนบอล : 10

ได้ฟาวล์ : 3

เข้าปะทะ : 4

ถึงขณะนี้ ซีเย็ค กระทุ้งประตูในเกมลีกให้ต้นสังกัดไปแล้วห้าเม็ด และมันเกิดขึ้นในห้าสนามที่แตกต่างกัน ไล่ตั้งแต่ เทิร์ฟ มัวร์ , เอติฮัด สเตเดี้ยม , วิคาเรจ โร้ด , เอแม็กซ์ สเตเดี้ยม และ สแตมฟอร์ด บริดจ์

4.ขุมกำลังที่เทียบกันไม่ได้

นอกจากฟอร์มการเล่นจะเทียบกันไม่ได้อย่างที่ คอนเต้ ยอมรับตามตรงตลอดทั้งสามเกมหลังที่บู๊กันแล้ว ขุมกำลังเชิงลึกของสองทีมลอนดอนยังต่างกันราวฟ้ากับเหวอีกด้วย

เพราะในขณะที่ ซน ฮึง มิน บาดเจ็บ แฮร์รี่ เคน ก็ต้องแบกความรับผิดชอบในการสอยตาข่ายอย่างหนัก และว่ากันตามจริง คอนเต้ น่าจะเสียสถิติแพ้ในเกมลีกอิงลิชนัดแรกก่อนหน้านี้ที่บุกไปคว่ำ เลสเตอร์ ได้อย่างสุดระทึก 3-2 แล้วด้วยซ้ำ

แต่ด้วยความมหัศจรรย์ของ สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ซึ่งซัดสองเม็ดในช่วงทดเวลาพา สเปอร์ส หยิบสามแต้มได้อย่างเหลือเชื่อทำให้ดาวเตะทีมชาติฮอลแลนด์ได้รางวัลตอบแทนคุณงามความดีด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริงกับ เชลซี ทั้งๆที่ว่ากันว่าเขาไม่อยู่ในแผนของกุนซืออิตาเลี่ยน

อย่างไรก็ดี ในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เบิร์กไวน์จ ไม่อาจช่วยอะไร ไก่เดือยทอง ได้เลยแม้จะอยู่ในสนามครบ 90 นาทีเนื่องจาก เชลซี ไม่ใช่ เลสเตอร์ ที่มีโรคประจำตัวแก้ไม่หาย ตาข่ายทะลุในช่วงท้ายยันเต ล่าสุดยังไม่วายขยันเสียประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วงท้ายเกมให้กับ ไบรท์ตัน อีกจนได้

และในเมื่อตัวสำรองของ ไก่เดือยทอง ไม่ใช่พวกเกรดหัวแถว คอนเต้ จึงแก้ไขสถานการณ์ได้ลำบาก ต่างไปจาก ทูเคิ่ล ที่สามารถส่งใครลงไปเล่นแทน 11 ตัวแรกได้อย่างสบายเนื่องจาก สิงห์บลูส์ อัดแน่นไปด้วยดาวเตะระดับคุณภาพเต็มซุ้มม้านั่งข้างสนาม

 

5. อนาคตของสองดาวเตะ ไก่เดือยทอง

การปราศจาก เดเล่ อัลลี่ ในเกมบุกเยือน เชลซี ส่งผลให้มีการทึกทักกันว่า คอนเต้ ต้องการโละกองกลางอังกฤษออกจากทีมในเดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขายขาด หรือยืมตัวโดยมี นิวคาสเซิ่ล (อีกแล้วครับท่าน) ถูกลือว่าสนใจรับเซ้งต่อ

และแม้ผู้จัดการทีมชาวเมืองพิซซ่าจะไม่ขอคอมเมนต์เรื่องที่ว่าหลังจากเกมจบลง แต่การโยนให้สโมสรตัดสินใจอนาคตของนักเตะย่อมบ่งบอกอยู่ในทีว่าพ่อค้าแข้งวัย 25 ปีไม่เป็นที่ต้องการของเขา

เท่านั้นไม่พอ นอกจาก อัลลี่ แล้ว โจวานี่ โล เซลโซ่ ก็เป็นอีกรายที่ไม่มีส่วนร่วมในเกมบู๊กับ สิงห์บลูส์

กระทั่งเชื่อกันว่าดาวเตะอาร์เจนไตน์น่าจะต้องระเห็จออกจาก ท๊อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เช่นกันเนื่องจากเจ้าตัวยืนยันผ่านอินสตาแกรมก่อนเกมว่าฟิตเต็มถัง

“ผมอยากเคลียร์ว่าผมฟิตร้อยเปอร์เซนต์ ผมไม่มีปัญหาอะไร ผมสบายดี ผมหวังว่าทีมจะชนะดาร์บี้แม็ตช์ในวันนี้”